1. หาอะไรใหม่ๆ ทำ
เชื่อหรือไม่ว่าสมองคนเราชอบที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หากสมองทำแต่สิ่งเดิมๆ มากเกินไป มันอาจจะถึงจุดที่ไม่อยากเรียนรู้อะไรอีกแล้ว ลองสังเกตตัวเองเวลานั่งทำอะไรเดิมๆ เป็นเวลานานๆ นั่งทำงานอยู่ในคอกเล็กๆ จนเป็นรูทีน หัวสมองก็จะตื้อๆ ตึงๆ คิดอะไรไม่ค่อยออก ลองหาเวลาไปเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เช่น เรียนวาดรูป ถ่ายภาพ เล่นกีฬาชนิดใหม่ หรือแม้แต่การเรียนภาษาใหม่ๆ ก็ช่วยกระตุ้นให้สมองได้ตื่นตัวมากขึ้น
2. เขียนบันทึกสิ่งต่างๆ ด้วยดินสอ หรือปากกา
ในยุคที่เราบันทึกทุกสิ่งอย่างลงบนสมาร์ทโฟน เพราะมันสะดวกสบายและใกล้มือ แต่เชื่อไหมว่าสิ่งนี้อาจทำให้สมองเราหลงลืมสิ่งต่างๆ และขาดการพัฒนาได้ จากผลงานวิจัยบางตัวยังชี้ไว้ด้วยว่า การเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ในภาษาใหม่ๆ ของผู้ใหญ่นั้น คนที่จดคำศัพท์เหล่านั้นด้วยกระดาษจะสามารถจดจำคำศัพท์เหล่านั้นได้ดีกว่า ผู้ที่ใช้วิธีการพิมพ์ หรือบันทึกลงสมาร์ทโฟน ข้อนี้เราขอนั่งยันนอนยัน เพราะวัดจากตอนเรียน เวลาจดสิ่งต่างๆ ลงกระดาษสามารถทำข้อสอบได้ดีกว่าการอ่านเพียงอย่างเดียว
3. โยกๆๆ โยกเข้าไปให้มันหลุดโลก
แถวนี้มีใครเป็นขาแดนซ์บ้างคะ มีผลงานวิจัยจากบางสถาบันได้แนะนำว่าการจะบูสต์พลังสมองให้ได้ประสิทธิภาพนั้น การเต้นถือเป็นอีกหนทางหนึ่งที่สามารถช่วยได้ เพราะขณะที่คุณเต้นนั้นร่างกายจะได้แพลนท่าทางที่คุณจะเต้นโชว์สาวๆ ออกไป ได้จับจังหวะเพลง กับท่าทางให้เข้ากัน ใครที่เต้นไม่ค่อยเป็นลองหัดเต้นดูค่ะ ยังไม่สายเกินไป แถมยังได้พลังสมองเพิ่มด้วยนะ
4. คิดแต่เรื่องในแง่ดี
การมองโลกในแง่ดีเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้วค่ะ และการคิดแต่เรื่องดีๆ ก็ช่วยกระตุ้นให้สมองของเราตื่นตัว เพราะความเครียด และความกังวลมันจะไปหยุดการทำงานของเซลล์ประสาทที่จะช่วยให้คุณได้สร้างสรรค์สิ่งใหม่ มีผลวิจัยที่อ้างว่าการคิดแต่สิ่งดีๆ ช่วยสร้างเซลล์ประสาทที่จะไปต่อต้านความเครียด ผู้นำระดับโลกมักจะใช้วิธีการนี้เวลาเขาเผชิญปัญหาร้ายแรง ด้วยการมองให้มันเป็นเรื่องที่ดีเข้าไว้ ลองคิดดูถ้าคุณเจอเรื่องแย่ๆ มา แล้วยังคิดตอกย้ำตัวเองว่ามันคือเรื่องแย่ ชีวิตจะมีแรงไปสู้กับใครเขา
5. อ่านหนังสือ
การอ่านหนังสืออย่างไรก็มีแต่ประโยชน์ล้วนๆ อยู่แล้ว เพิ่มพูนความรู้ แถมยังบูสต์พลังให้สมอง และช่วยบรรเทาความเครียด เพราะการอ่านหนังสือเป็นหนทางที่ดีมากในการเพิ่มจินตนาการ คิดสิ่งต่างๆ ออกมาเป็นภาพ การที่สมองของเราได้จินตนาการสิ่งต่างๆ อย่างไม่รู้จบ คือการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และเพิ่มพลังสมองที่ดีมากค่ะ
6. กินอาหารที่มีประโยชน์เรียนกันมาตั้งแต่เด็กว่าการกินอาหารให้ครบห้าหมู่ และออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอนั่น ให้ประโยชน์กับร่างกายของเราแบบภายในไปสู่ภายนอกเลย เคยได้ยินไหมคะว่า กินปลาเยอะๆ จะได้ฉลาด เนื่องจากสารอาหารอย่างโอเมก้า 3 ในปลานั้นมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง น้ำมันตับปลา หรือแม้แต่ผลไม้สดก็ควรรับประทานเป็นอย่างยิ่ง ร่างกายดีสมองก็ดีตาม
7. มีเซ็กส์
มีผลงานวิจัยหลายชิ้นได้ระบุไว้ว่า การมีเซ็กส์สามารถช่วยเพิ่มทักษะ และกระบวนการรับรู้ให้แก่ร่างกายของเรา เนื่องจากสารเซโรทินีนที่หลั่งออกมาในขณะที่เรามีเซ็กส์นั้น จะช่วยเพิ่มพลังความคิดสร้างสรรค์ และเพิ่มตรรกะในเรื่องของการตัดสินใจ
8. อารมณ์ขันช่วยได้
เชื่อหรือไม่ว่าอารมณ์ขันเพียงเล็กน้อยที่คุณมี ช่วยสร้างเสน่ห์ให้คุณได้มากโข นอกจากจะสร้างเสน่ห์แล้ว ยังกระตุ้นสมองให้ตื่นตัวด้วย มีบางคนใช้เทคนิคก่อนเข้าพรีเซนต์งานชิ้นใหญ่ๆ ด้วยการส่งรูปภาพขบขันให้คนในที่ประชุมดู การที่ทำให้พวกเขาได้หัวเราะก่อนที่จะเจอเรื่องเครียด ช่วยทำให้สมองของเขาการที่จะเปิดรับเรื่องที่ครีเอทได้มากขึ้น ถ้าคุณคิดว่ารูปที่คุณมีฮาพอ ก็ลองนำเทคนิคแบบนี้ไปใช้ดูก็ได้นะคะ
9. นั่งสมาธิ เพ่งสติ
ศาสตร์ของการนั่งสมาธิเป็นอะไรที่แพร่หลายไปทั่วโลก ฝรั่งมังค่าต่างก็หันมานั่งสมาธิกันมากขึ้น การนั่งสมาธิเพื่อดูสติ รับรู้ว่ากาย และจิตเราคิดอะไรอยู่ รับรู้ ควบคุม ปล่อยวาง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ร่างกายพร้อมที่จะตั้งสติ และพร้อมคิดเรื่องใหญ่ๆ ละเอียดอ่อน พูดง่ายๆ คือการฝึกให้ร่างกายสามารถควบคุมความคิดที่ฟุ้งซ่าน หรือตัดสิ่งเร้าออกจากตัวได้ เราก็สามารถคิดงานได้แบบเต็ม 100 %
10. เล่นเกมสักหน่อยช่วยได้แน่นอน
อย่ามองว่าการเล่นเกมเป็นเรื่องไร้สาระซะทีเดียว หากคุณมีลิมิต และแบ่งเวลาของตนให้บาลานซ์กันได้ การเล่นเกมก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร ลองดูพวกเกม Puzzle อย่างพวก Tetris , Dot, 2048 หรือ sodoku เกมที่ต้องใช้สมองทั้งหลาย สามารถช่วยเพิ่มทักษะในการคิดเพื่อเอาชนะเกม และเพิ่มเลเวลของตัวเองให้มากขึ้น พักเที่ยงจะเล่นเกมสักสิบยี่สิบนาทีก็ไม่มีใครว่าค่ะ
11. งีบหลับ พักให้เป็นเวลา
บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง google ยังต้องมีที่นอนไว้เพื่อให้พนักงานในบริษัทได้งีบหลับระหว่างวัน ผลงานวิจัยจากหลายแห่งก็ยังยืนยันว่าการงีบหลับช่วยทำให้สมองซีกขวาของเราทำงานได้ดีขึ้น และช่วยทำให้ความจำดีขึ้นด้วย บริษัทไหนอยากให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างกระฉับกระเฉงต้องลองนำไปปรับใช้ดูค่ะ ดูประโยชน์ของการงีบหลับได้ที่นี่
12.นอนให้เต็มอิ่ม
สุขใดไหนเล่า จะสู้การกินอิ่ม และนอนหลับ หลายๆ คน ยิ่งคนที่ทำงานเยอะ รับผิดชอบอะไรหลายอย่าง มักจะมีปัญหาในการนอนหลับ เพราะต้องนั่งคิด นอนคิด สิ่งที่ตัวเองต้องทำในแต่ละวัน ก็เลยไม่ได้นอน ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นเลยนะคะ การอดหลับอดนอนเนี่ย เพราะขณะที่คุณนอนหลับเท่ากับเป็นการดีท๊อกซ์สมอง เป็นหนทางที่ร่างกายจะได้สร้างเซลล์ใหม่ๆ เพราะฉะนั้นการนอนหลับให้เพียงพอ 8 ชั่วโมงต่อวัน เป็นเรื่องที่ดีมาก ช่วงเวลาตั้งแต่สามทุ่มถึงเที่ยงคืน เป็นช่วงเวลาที่ดีค่ะ ใครชอบนอนหลังตีหนึ่งลองปรับพฤติกรรมดูนะ ส่วนใครที่มีปัญหาเรื่องการนอนหลับ แนะนำให้หาหมอรักษาด่วนๆ เลย
ลองนำไปปรับใช้กันดู หรือใครที่มีทริคเด็ดๆ เวลาคิดอะไรไม่ค่อยออก ลองแบ่งปันให้ คนอื่นๆ ได้เรียนรู้บ้างก็ดีนะคะ หรือหากนำไปใช้แล้วได้ผลไม่ได้ผลอย่างไร ก็กระซิบมาบอกเราได้เช่นกันค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น